^_^
ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนหน้าตาไม่ค่อยดีแต่นิสัยดี๊ดี เฮฮา และเป็นกันเอง อิอิ!!
เอชชู่>_<
จ๊าบบบ...จ๊าบบบ
Je m'appelle bongkoch Thipsumonta
ดูโปรไฟล์ทั้งหมดของฉัน
คลังบทความของบล็อก
▼
2010
(4)
▼
สิงหาคม
(1)
คิดถึงโรงเรียนจังเลยคิดถึงอาจารย์ทุกท่านคิดถึงเพื่...
►
กุมภาพันธ์
(1)
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆ สอบ O-Net เสร็จแล้วดีจัยจัง ข้อสอบยาก...
►
มกราคม
(2)
อาหารเช้าเพื่อสุขภาพ1..ขนมปังปิ้ง อาหารเช้ายอดฮิตท...
เรื่องราวประวัติศาสตร์ระหว่างประเทศที่มีอุดมการณ์ท...
►
2009
(27)
►
ธันวาคม
(2)
►
พฤศจิกายน
(5)
►
ตุลาคม
(1)
►
กันยายน
(5)
►
สิงหาคม
(6)
►
มิถุนายน
(3)
►
พฤษภาคม
(1)
►
กุมภาพันธ์
(3)
►
มกราคม
(1)
►
2008
(15)
►
ธันวาคม
(1)
►
พฤศจิกายน
(3)
►
ตุลาคม
(4)
►
กันยายน
(3)
►
สิงหาคม
(4)
เรารักในหลวง
วันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553
คิดถึงโรงเรียนจังเลย
คิดถึงอาจารย์ทุกท่าน
คิดถึงเพื่อนๆทุกคน
ตอนนี้โรงเรียนมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างน้า!
อยากไปเยี่ยมโรงเรียนจัง...
วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆ
สอบ O-Net เสร็จแล้วดีจัยจัง
ข้อสอบยากมากมาย..เพื่อนๆก็คงคิดเหมือนกันเนอะ..
เห้อออ..ทีนี้ก็เหลือสอบปลายภาค..สู้ สู้กันต่อไปค้าบพี่น้อง
เวลาที่จะได้อยู่กับเพื่อนๆก็เริ่มเหลือน้อยลงไปทุกทีแล้ว
จะรักโรงเรียนและรักเพื่อนๆทุกคนตลอดไป
วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2553
อาหารเช้าเพื่อสุขภาพ
1..
ขนมปังปิ้ง
อาหารเช้ายอดฮิตที่ใช้เวลาปรุงเพียงแค่ 2 นาทีเท่านั้น แถมยังมีเมนูหลากหลายให้เลือกไม่สิ้นสุด ขนมปังปิ้งกับแยมรสโปรดก็ใช่ ขนมปังปิ้งทาเนยก็ชอบ หรือจะเป็นขนมปังปิ้งจิ้มน้ำผึ้งก็ไม่เลว แต่เพื่อสุขภาพที่ดีมากขึ้นควรเลือกขนมปังโฮลวีทหรือขนมปังธัญพืชเป็นส่วนประกอบหลัก The American Dietetic Association ให้คำแนะนำว่าใน 1 วันควรรับประทานขนมปังเพื่อสุขภาพอย่างน้อย 3 แผ่น และการรับประทานขนมปังโฮลวีทกับเนยถั่วยังทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้นด้วย
2.
ผลไม้สด
ผลิตผลจากธรรมชาติที่เปี่ยมไปด้วยไฟเบอร์และวิตามินอันทรงคุณค่า เหมาะกับชั่วโมงเร่งด่วนยามเช้าเป็นอย่างยิ่ง ส้ม 1 ผลให้สารไฟเบอร์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย 3 กรัม โปรตีน 1 กรัม และพลังงานจำนวน 60 แคลอรี กล้วย 1 ลูกนอกจากจะอุดมไปด้วยไฟเบอร์แล้ว ยังมีธาตุโพแทสเซียมซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของแรงดันโลหิตอีก 400 มก. คราวหน้าถ้าคุณสาวๆ บอกกับตัวเองว่า ‘ไม่มีเวลากินอาหารเช้า’ อีกละก็แค่เดินไปเปิดตู้เย็น หยิบแอปเปิลมากัดสักสองสามคำ ร่างกายก็จะได้รับสารไฟเบอร์ไป 4 กรัม และพลังงานอีก 60 แคลอรีเพียวๆ โดยไม่เสียเวลาแต่อย่างใด
3.
ซีเรียล
แม้จะเป็นอาหารที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก แต่ซีเรียลก็เป็นอาหารอีกชนิดหนึ่งที่สะดวกและเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะกับยามเช้าอันแสนเร่งรีบ แค่รับประทานซีเรียลผสมนมพร่องมันเนยถ้วยเดียวคุณก็ได้รับธาตุไฟเบอร์แบบเต็มๆ ไปแล้วอย่างน้อย 4 กรัม น้ำตาลอีก 10 กรัม แถมไขมัน 0% อีกต่างหาก
4
.เครื่องดื่มจำพวกสมู้ทตี้
อาหารเช้าอันแสนเพอร์เฟคสำหรับสาวที่ไม่ชอบเคี้ยว ถ้าคุณมีเวลาชงกาแฟแล้วละก็ขอแนะนำให้คุณหันมาดื่มเครื่องดื่มจำพวกนี้แทนดีกว่า แค่เอาผลไม้ที่เหลือในตู้เย็นเติมนมไปนิด น้ำแข็งสักก้อนสองก้อนมาปั่นรวมกัน ก็ได้อาหารเพื่อสุขภาพแล้ว แถมยังได้ความสดชื่นเป็นโบนัสยามเช้าอีกด้วย
5.
ข้าวโอ๊ต
สุดยอดอาหารมหัศจรรย์ที่ใช้เวลาปรุงเพียงแค่ 5 วินาทีเท่านั้น เพียงเติมน้ำร้อนก็พร้อมรับประทาน ข้าวโอ๊ต 1 ซองอุดมไปด้วยธาตุไฟเบอร์ 3 กรัม และให้พลังงาน 150 แคลอรี แถมยังช่วยลดคอเลสเทอรอล และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจด้วย
วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2553
เรื่องราวประวัติศาสตร์ระหว่างประเทศที่มีอุดมการณ์ที่ต่างกัน
สงครามเย็น
สงครามเย็น (
อังกฤษ
: Cold War) (
พ.ศ. 2490
-
2534
หรือ
ค.ศ. 1947
-
1991
) เป็นการต่อสู้กันระหว่างกลุ่มประเทศ 2 กลุ่ม ที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองและระบบการเมืองต่างกัน เกิดขึ้นในช่วงหลัง
สงครามโลกครั้งที่สอง
ฝ่ายหนึ่งคือ
สหภาพโซเวียต
เรียกว่า
ค่ายตะวันออก
ซึ่งปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ อีกฝ่ายหนึ่ง คือ
สหรัฐอเมริกา
และกลุ่มพันธมิตร เรียกว่า
ค่ายตะวันตก
ซึ่งปกครองด้วยระบอบ
เสรีประชาธิปไตย
ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวทั้งสองฝ่ายได้แข่งขันในด้านการสะสมอาวุธ เทคโนโลยีอวกาศ การจารกรรม เศรษฐกิจ และทำสงครามผ่านสงครามตัวแทน
การกำเนิดค่ายตะวันออก
ในช่วงท้ายของ
สงครามโลกครั้งที่ 2
สหภาพโซเวียตได้ก่อตั้ง
ค่ายตะวันออก
(Eastern Bloc) โดยการรวมรัฐที่ได้ยึดมาจากฝ่าย
นาซี
เช่น โปแลนด์ ลัตเวีย ลิทัวเนีย ฟินแลนด์ เอสโตเนีย โรมาเนีย แล้วจึงเปลี่ยนสถานะให้เป็นรัฐสังคมนิยมซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของ
สหภาพโซเวียต
ลำดับเหตุการณ์
นโยบายต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตในช่วงเวลาดังกล่าว คำนึงถึงสงครามเย็นเป็นหลัก นับจากปี
ค.ศ. 1947
(
พ.ศ. 2490
) จนกระทั่ง
การล่มสลายของสหภาพโซเวียต
ใน
ค.ศ. 1991
(
พ.ศ. 2534
) สมัยเริ่มต้นสงครามเย็น น่าจะอยู่ในสมัยวิกฤตการณ์ทางการทูตในตอนกลางและปลาย ค.ศ. 1947 เมื่อสหรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียตเกิดขัดแย้งเรื่องการจัดตั้งองค์การสันติภาพใน
ตุรกี
ยุโรปตะวันออก
และ
เยอรมนี
ความตึงเครียดเนื่องจากการเผชิญหน้ากันระหว่างอภิมหาอำนาจ แต่ยังไม่มีการประกาศสงครามหรือใช้กำลัง เป็นสมัย
ลัทธิทรูแมน
วันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 1947 กับประกาศ
แผนการมาร์แชลล์
เพื่อฟื้นฟูบูรณะ
ยุโรปตะวันตก
ซึ่งได้รับความเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่สอง การขยายอิทธิพลของโซเวียตในยุโรปตะวันออก และการแบ่งแยกเยอรมนี
การวิจัยและพัฒนาโครงการทางการทหารทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่จำนวนมาก เกิดขึ้นในในช่วงเวลานี้ รวมถึงการแข่งขันกัน
สำรวจอวกาศ
และการสะสม
อาวุธนิวเคลียร์
ด้วย ทั้งหมดนี้เป็นไปเพื่อแสดงแสนยานุภาพของฝ่ายตน
บทความที่ใหม่กว่า
บทความที่เก่ากว่า
หน้าแรก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)